ฟูก๊วก เกาะมรกตแห่งเวียดนามใต้ที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง: ทะเลสวย อาหารสด พักผ่อนครบในทริปเดียว

ฟูก๊วก คือเกาะใหญ่ที่สุดของเวียดนามใต้ที่กำลังมาแรงในหมู่นักเดินทางชาวไทย ด้วยหาดทรายขาวน้ำใสระดับมรกต กิจกรรมทางทะเลหลากหลาย และโรงแรมรีสอร์ทสวยๆ ที่ผสมผสานธรรมชาติกับความสะดวกสบายอย่างลงตัว เกาะนี้ขึ้นชื่อเรื่องน้ำปลาและพริกไทยคุณภาพเยี่ยม แถมมีแลนด์มาร์กใหม่ๆ อย่างเคเบิลคาร์ข้ามทะเลที่ยาวติดอันดับโลก สวนสนุกระดับอินเตอร์ และคาเฟ่วิวพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก ไม่ว่าจะไปเป็นคู่ เพื่อนฝูง หรือครอบครัว ทัวร์ฟูก๊วก สามารถออกแบบให้ตอบโจทย์ทุกสไตล์ตั้งแต่ชิลริมหาดจนถึงผจญภัยกลางทะเล

บทความนี้รวบรวมข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้การวางแผนราบรื่น ทั้งจุดไฮไลต์ที่ห้ามพลาด ช่วงเวลาน่าเที่ยว การเดินทาง งบประมาณ ตลอดจนตัวอย่างโปรแกรมจริง พร้อมเคล็ดลับเล็กๆ ที่ช่วยให้ทริปคุ้มค่า น่าประทับใจ และถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุม โดยยังเคารพธรรมชาติและชุมชนท้องถิ่น

ไฮไลต์ห้ามพลาดบนเกาะฟูก๊วก: ทะเลสีคราม วัฒนธรรม และความสนุกครบจบในทริปเดียว

เสน่ห์ของ ฟูก๊วก เริ่มต้นที่หาดทรายละเอียดและอ่าวน้ำใสสีเทอร์ควอยซ์ หาดที่ขึ้นชื่อได้แก่ Bai Sao ทรายละเอียดนุ่มเท้าและน้ำสีฟ้าอมเขียว, Bai Khem ที่เงียบสงบและมีรีสอร์ทสวยเรียงราย และ Ong Lang จุดชมพระอาทิตย์ตกบรรยากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะ สำหรับคนรักท้องทะเล แนะนำทริปเรือไปหมู่เกาะ An Thoi ดำน้ำตื้นดูปะการังที่เกาะ Gam Ghi, May Rut และ Mong Tay ซึ่งน้ำมักใสและมีฝูงปลาให้เห็นใกล้ๆ กิจกรรมยอดนิยมอีกอย่างคือทริปตกปลาหมึกกลางคืน ได้ทั้งความตื่นเต้นและชิมเมนูสดๆ บนเรือ

อีกหนึ่งไฮไลต์คือการนั่งเคเบิลคาร์ลอยเหนือทะเลไปเกาะ Hon Thom ที่ยาวติดอันดับโลก มองเห็นแนวเกาะน้อยใหญ่และน้ำทะเลหลายเฉดสีจากมุมสูง สายแอดเวนเจอร์สามารถเล่นสวนน้ำและกิจกรรมชายหาดที่โซน Sun World ได้ ส่วนครอบครัวอย่าพลาด VinWonders และ Vinpearl Safari ที่รวมเครื่องเล่น การแสดง และสวนสัตว์ซาฟารีขนาดใหญ่ เด็กๆ จะสนุกพร้อมได้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าและการอนุรักษ์

ด้านวัฒนธรรมและวิถีท้องถิ่น ฟูก๊วกขึ้นชื่อเรื่องโรงงานน้ำปลาแบบดั้งเดิมที่หมักในถังไม้ขนาดใหญ่ กลิ่นหอมเฉพาะตัวเหมาะกับการซื้อกลับบ้าน นอกจากนี้ยังมีฟาร์มพริกไทยที่ปลูกแบบออร์แกนิกให้เดินชมและชิม พร้อมเรียนรู้สายพันธุ์ต่างๆ และเคล็ดลับการเก็บเกี่ยว แวะฟาร์มไข่มุกดูขั้นตอนเลี้ยงหอยมุกและงานฝีมืออัญมณี ก่อนจบทริปที่ตลาดกลางคืน Dinh Cau ชิมซีฟู้ดสดใหม่ อาหารพื้นเมือง และซื้อของฝาก

เรื่องกินต้องลองเมนูท้องถิ่นอย่าง Goi Ca Trich (สลัดปลาฮีริง) ที่หอมสมุนไพร, Bun Quay ก๋วยเตี๋ยวซีฟู้ดสไตล์ฟูก๊วกที่ปรุงสดและต้อง “คน” ซุปให้เข้ากัน, หอยเม่นย่างหอมมัน และไวน์หมากเล็บนกหรือไวน์ซิม ซึ่งมีรสหวานหอม ช่วงเย็นแวะจุดชมวิว Dinh Cau Cape นั่งคาเฟ่ริมทะเลรับลม ดูพระอาทิตย์ลาลับเส้นขอบฟ้าให้ฟีลโรแมนติก สำหรับคนที่อยากให้การวางแผนง่ายขึ้นและได้ครบทุกไฮไลต์ในเวลาเหมาะสม ลองเลือกแพ็กเกจ ทัวร์ฟูก๊วก ที่คัดสรรโปรแกรม กิจกรรม และมื้อเด็ดไว้เรียบร้อย ช่วยประหยัดเวลาและงบประมาณได้มาก

ไปฟูก๊วกเมื่อไหร่ดี เดินทางอย่างไร และต้องเตรียมงบเท่าไหร่

ช่วงที่อากาศดีที่สุดของ ฟูก๊วก คือฤดูแห้งประมาณพฤศจิกายนถึงเมษายน ทะเลใส คลื่นไม่แรง เหมาะกับดำน้ำและล่องเรือ ส่วนพฤษภาคมถึงตุลาคมเป็นหน้าฝน อาจมีฝนสั้นๆ ระหว่างวันและคลื่นแรงขึ้นบ้าง แต่ธรรมชาติจะเขียวชอุ่ม ห้องพักมักมีโปรโมชัน ใครชอบความสงบและราคาคุ้มค่า ช่วงไหล่ฤดูอย่างพฤษภาคมหรือปลายกันยายน-ตุลาคมเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

การเดินทางสะดวกที่สุดคือบินจากกรุงเทพฯ ต่อเครื่องที่โฮจิมินห์แล้วบินภายในประเทศต่อไปสนามบิน Phu Quoc (PQC) ใช้เวลารวมประมาณ 4–6 ชั่วโมงขึ้นกับเวลาต่อเครื่อง อีกเส้นทางคือบินไป Rach Gia หรือ Ha Tien แล้วต่อเรือเฟอร์รี่ไปเกาะ เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศทะเลแบบสโลว์ไลฟ์มากขึ้น บนเกาะมีแท็กซี่ รถเช่า และรถรับส่งของโรงแรม หากเดินทางเป็นกลุ่ม การจองรถตู้พร้อมคนขับจะคุ้มและยืดหยุ่นกว่า

งบประมาณขึ้นอยู่กับสไตล์การเที่ยว แต่โดยภาพรวม ทริป 3 วัน 2 คืน แบบสบายๆ อาจใช้งบประมาณต่อคนดังนี้: ตั๋วเครื่องบิน 5,000–9,000 บาท (ขึ้นกับฤดูกาลและสายการบิน), ที่พัก 1,200–4,000 บาท/คืน (โฮเทลบูทีคถึงรีสอร์ทติดหาด), ค่าอาหาร 300–800 บาท/มื้อ, ทริปดำน้ำหรือเคเบิลคาร์ 1,200–2,500 บาท/กิจกรรม การเลือกทัวร์แบบแพ็กเกจช่วยล็อกราคาได้และมักรวมรถรับส่ง อาหารบางมื้อ และไกด์ท้องถิ่นที่รู้จังหวะการเที่ยวหลบคนเยอะ ทำให้ได้ภาพสวยและใช้เวลาคุ้ม

เคล็ดลับเพิ่มเติม: คนไทยเดินทางเข้าเวียดนามได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเมื่อพำนักระยะสั้นตามกำหนด ควรพกหนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน แลกเงินดองเวียดนาม (VND) สำหรับจ่ายค่ารถเล็กน้อย ตลาด และคาเฟ่บางแห่ง บัตรเครดิตใช้ได้ในโรงแรมและร้านใหญ่ๆ ซื้อซิมหรือ eSIM เพื่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร ปลั๊กไฟ 220V หัวกลมสองขาแบบยุโรปส่วนใหญ่ใช้ได้ ครีมกันแดดชนิด Reef-safe และสเปรย์กันยุงเป็นไอเทมที่ควรมี โดยเฉพาะหากวางแผนเดินป่าในอุทยานแห่งชาติหรือไปหมู่เกาะ An Thoi

ตัวอย่างเส้นทาง 3–4 วัน และเคสจริงจากนักเดินทางหลายสไตล์

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองดูตัวอย่างโปรแกรม 3 วัน 2 คืน เริ่มวันแรกด้วยการเช็กอินที่พักย่าน Duong Dong ซึ่งสะดวกต่อการเดินทาง จากนั้นไปหาด Ong Lang รับลม ถ่ายรูป และรอชมพระอาทิตย์ตกเย็นๆ ต่อด้วยตลาดกลางคืน Dinh Cau ชิมซีฟู้ดสดและของหวานท้องถิ่น วันที่สองออกเรือไปหมู่เกาะ An Thoi ดำน้ำสอง–สามจุด แวะชายหาดขาวละเอียดบนเกาะ May Rut นั่งชิงช้าไม้เก๋ๆ ก่อนนั่งเคเบิลคาร์ไป Hon Thom เล่นสวนน้ำและกิจกรรมริมหาด ค่ำคืนอาจเพิ่มทริปตกปลาหมึกสำหรับคนสายลุย วันสุดท้ายแวะโรงงานน้ำปลา ฟาร์มพริกไทย และฟาร์มไข่มุก ซื้อของฝากแล้วไปหาด Bai Sao จิบม็อกเทลริมทะเล ปิดทริปด้วยภาพจำแรงๆ

ถ้ามีเวลา 4 วัน 3 คืน เพิ่มวันสนุกสำหรับครอบครัวที่ VinWonders และ Vinpearl Safari ซึ่งมีโชว์และโซนเรียนรู้สัตว์ป่าที่เด็กๆ ชอบ หรือจะเลือกวันพักผ่อนเต็มๆ ที่รีสอร์ทติดหาด Bai Khem จองสปา นั่งชิลบีชคลับ และดินเนอร์ซีฟู้ดแบบ Private บนชายหาด สำหรับคู่รัก แนะนำจองห้องพักพูลวิลล่าวิวทะเลในโซนเงียบ สร้างบรรยากาศโรแมนติกพร้อมเซ็ตถ่ายภาพช่วงโกลเดนอะ워

เคสจริงจากผู้เดินทางแบบแก๊งเพื่อน 6–8 คน เลือกเช่ารถตู้พร้อมคนขับตลอดทริป ช่วยประหยัดเวลาย้ายจุดและแวะโลเคชันลับ เช่น จุดชมวิวบนถนนเลียบชายฝั่งและคาเฟ่ซ่อนตัวบนเนินเขา กลุ่มนี้จัดงบกิจกรรมหนักไปที่ดำน้ำแบบมีไกด์ ซึ่งช่วยเลือกไซต์ที่น้ำใสดีในวันนั้นๆ และคอยดูเรื่องความปลอดภัย ด้านนักเดินทางสายรักษ์โลก นิยมไปหมู่บ้าน Rach Vem เพื่อชมดาวทะเลในช่วงน้ำตื้น แต่ยึดหลักการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ไม่จับหรือยกดาวทะเลขึ้นจากน้ำ และไม่ใช้ครีมกันแดดที่ทำลายปะการัง การใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้ทำให้ธรรมชาติสวยงามอยู่กับเราได้นาน

สำหรับสายกิน ควรลิสต์ร้าน Bun Quay เจ้าเก่าในตัวเมือง ลองสลัดปลาฮีริงรสสดและซีฟู้ดเผาในร้านท้องถิ่น แวะคาเฟ่วิวทะเลหรือรูฟท็อปบาร์สักแห่งเพื่อจับภาพยามเย็น โดยเฉพาะช่วงธันวาคม–มีนาคมที่ท้องฟ้าเปิดและสีสวยมาก ช่างภาพควรพกฟิลเตอร์โพลาไรซ์ช่วยตัดแสงสะท้อนน้ำทะเล และถ้าตั้งใจดำน้ำ แนะนำหน้ากากที่เข้ากับใบหน้าพอดีเพื่อป้องกันน้ำรั่วซึม สุดท้ายอย่าลืมประกันการเดินทางที่คุ้มครองกิจกรรมทางน้ำ เพิ่มความอุ่นใจให้ทริป ทัวร์ฟูก๊วก ลื่นไหลไร้กังวล

สนใจแพ็กเกจทัวร์ฟูก๊วกและเวียดนามใต้ ติดต่อ Letago ได้เลย!

เว็บไซต์: https://letago.com/destinations/asia-tour/vietnam-tour/southern-vietnam-tour/

โทรศัพท์: 085-4063944, 083-6783311

นอกเวลาทำการ Hotline: 085-4063944

LINE ID: @letagotravel